สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนเม.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ พุ่งขึ้น 71 เซนต์ แตะที่ 102.94 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (3 มี.ค.) จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 102.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย และจากความกังวลที่ว่าเหตุการณ์รุนแรงอาจลุกลามในตะวันออกกลาง
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากกองกำลังทหารภายใต้การนำของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ได้โจมตีกลุ่มผู้ประท้วงที่บริเวณชายฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันและลำเลียงน้ำมันที่สำคัญของลิเบีย
นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังระดับโลกคาดว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 140-150 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.พ. ลดลง 400,000 บาร์เรล แตะที่ 346.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 800,000 บาร์เรล แตะที่ 159.2 ล้านบาร์เรล แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 3.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 234.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น 1.5% แตะที่ 80.9% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%