สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) หลังจากเหตุการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในลิเบียทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกือบ 200,000 ตำแหน่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าการจ้างงานที่สูงขึ้นจะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้เพิ่มขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.51 ดอลลาร์ หรือ 2.46% ปิดที่ 104.42 ดอลลาร์/บาเรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ปี 2551
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 3.0893 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.02 เซนต์ ปิดที่ 3.0464 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถานการณ์ตึงเครียดในลิเบียยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ โดยเมื่อวานนี้ เมื่อกองกำลังทหารของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่เมืองทริโปลี นอกจากนี้มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านกัดดาฟีได้เข้าโจมตีท่าเรือลำเลียงน้ำมันราสลานอฟ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองทริโปลีประมาณ 611 กิโลเมตร
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า สถานการณ์รุนแรงในลิเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 13 ของโลก ได้ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันภายในประเทศลดลง 850,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าการจ้างงานที่สูงขึ้นจะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้เพิ่มขึ้นด้วย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.พ.พุ่งขึ้น 192,000 ตำแหน่ง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 185,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราว่างงานเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับ 8.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.1%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กังวลว่า หากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอีกก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคเอกชน และหากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับ 150 ดอลลาร์ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจโลกกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่