สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในกว่า 2 ปีเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงในลิเบีย หลังจากกองกำลังสนับสนุนพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ได้ใช้อาวุธหนักโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงใกล้กับท่าเรือลำเลียงน้ำมันหลักของลิเบีย ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดทางการอาจทำให้ผลผลิตน้ำมันของลิเบียลดลงอีก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 105.44 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ปี 2551
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนเม.ย.ร่วงลง 2.36 เซนต์ ปิดที่ 3.0657 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนเม.ย.ลดลง 4.25 เซนต์ ปิดที่ 3.0039 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 105.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ปี 2551
สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้แรงหนุนจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของแอฟริกาเหนือ เนื่องจากการประท้วงขับไล่ผู้นำลิเบียยังคงยืดเยื้อจนถึงขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานของลิเบียกล่าวว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันของลิเบียอาจลดลงประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า สถานการณ์รุนแรงในลิเบียส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันภายในประเทศลดลงไปแล้ว 850,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า เครื่องบินของกองกำลังสนับสนุนกัดดาฟีได้ใช้อาวุธหนักโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงที่ท่าเรือราส ลานอฟ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองทริโปลีประมาณ 611 กิโลเมตร
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กำลังประเมินสถานการณ์ในตลาด น้ำมัน และความจำเป็นในการประชุมฉุกเฉิน ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไนจีเรีย กำลังวางแผนที่จะจัดหาน้ำมันเข้าสู่ตลาดอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังประเมินสถานการณ์ว่าควรจะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันหรือไม่ โดยสต็อกน้ำมันทางยุทธศาสตร์ตั้งอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินในรัฐเท็กซัสและหลุยส์เซียนา โดยปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ 727 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%