ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) ราคาสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงและความวิตกกังวลว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจะทำให้อุปสงค์ในสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรลดลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค.ปิดที่ 6.8275 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ลดลง 18.25 เซนต์ ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 18.25 เซนต์ แตะที่ 7.405 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.ดีดตัว 6.5 เซนต์ แตะที่ 13.555 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ราคาถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ร่วงลง 3 วันติดต่อกัน โดยราคาที่ลดลงต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในรอบ 100 วัน ในก่อนหน้านี้ได้กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อโดยนักเก็งกำไรและผู้บริโภค
โบรกเกอร์กล่าวว่า "มีคำสั่งซื้อถั่วเหลืองจำนวนมากจากภาคธุรกิจหลังจากที่เปิดตลาดลดลง แต่มีแรงซื้กมากนักสำหรับข้าวโพดและข้าวสาลี"
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) เมื่อวานนี้ยังไม่มีข่าวที่เป็นปัจจัยบวกใหม่ๆ โดยกระทรวงได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์สต็อคข้าวสาลีและการเพาะปลูกถั่วเหลืองในบราซิลที่สูงกว่าคาดการณ์ และไม่ได้สกัดแนวโน้มขาลงในสัปดาห์นี้ของราคาข้าวโพดและข้าวสาลี
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมในช่วงสั้นๆ หลังเปิดตลาด ในขณะที่ข้าวโพดลดลง 2.6% สู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์
ทั้งนี้ การที่มูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อของสเปนทำให้เกิดความวิตกกังวลอีกครั้งต่อภาวะหนี้สินในเขตยูโรโซน และการรายงานยอดขาดดุลการค้าในเดือนกุมภาพันธ์ของจีนทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
USDA ได้ปรับเพิ่มปริมาณสต็อคข้าวสาลีสู่ระดับ 843 ล้านบุชเชล เพิ่มขึ้น 25% จากการประเมินในก่อนหน้านี้ และสูงกว่าตัวเลขการประเมินของเทรดเดอร์อยู่ 33 ล้านบุชเชล ส่วนสต็อคข้าวโพดถึงแม้ปริมาณจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่ก็สูงกว่าคาดการณ์เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ USDA ยังคงการประเมินตัวเลขสต็อคถั่วเหลืองไว้เท่าเดิม แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตในบราซิล ซึ่งอาจจะช่วยลดแรงกดดันต่อสถานการณ์อุปทานในตลาดโลก