ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 มี.ค.) ราคาสัญญาธัญพืชร่วงลงอย่างหนัก หลังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้นำเข้าธัญพืชรายใหญ่ของสหรัฐ ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ซึ่งอาจทำให้อุปสงค์ลดลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค.ปิดที่ 6.6425 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ร่วง 18.5 เซนต์ หรือ 2.7% ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ดิ่ง 21.75 เซนต์ หรือ 2.9% แตะที่ 7.1875 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.ร่วง 21 เซนต์ หรือ 1.6% แตะที่ 13.345 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริกเตอร์ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ซื้อข้าวโพดรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐและเป็นผู้นำเข้าทั้งข้าวสาลีและถั่วเหลืองรายสำคัญ โดยแผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้เกิดคลื่นสึนามิความสูงถึง 10 เมตร ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่นเปิดเผยว่ากำลังตรวจสอบความเสียหายของท่าเรือและคลังสินค้าธัญพืช
สภาธัญพืชสหรัฐระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวมีแนวโน้มจะมีผลกระทบต่อการค้าธัญพืชหลังจากที่ท่าเรือในเมืองคูชิโร ฮาชิโนเฮะ อิชิโนมากิ และ คาชิมา ถูกคลื่นสึนามาซัดถล่ม และมีผลกระทบต่อโรงงานอาหารสัตว์และการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์หลายแห่ง
นอกจากนี้ ตลาดโดยทั่วไปยังได้รับผลกระทบจากแรงกดดันจากข้อมูลที่ย่ำแย่ด้านอุปสงค์และอุปทานธัญพืชในตลาดโลก รวมทั้งการส่งออกของสหรัฐ
เทรดเดอร์กล่าวว่า มีแรงเทขายสัญญาจำนวนมากเนื่องจากความไม่แน่นอนจากเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นและการซื้อขายข้าวโพดอาจสะดุดลง เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวโพดรายใหญ่สุดของสหรัฐ
เทรดเดอร์กล่าวเสริมว่า เหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นอาจทำให้การซื้อขายในตลาดข้าวสาลีลดลงในระยะสั้น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐ ในขณะที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐประเมินยอดสต็อคสำหรับปี 2553/2554 ไว้ที่ 181.90 ล้านตัน ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อบรรยากาศของข้าวสาลีอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดถั่วเหลือง ได้รับผลกระทบจากแรงเทขายจำนวนมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนจากเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ซ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน