สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายอย่างหนัก จากการคาดการณ์ที่ว่า วิกฤตการณ์นิวเคลียร์ของญี่ปุ่นอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน ภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ดิ่งลง 4.01 ดอลลาร์ หรือ 3.96% ปิดที่ 97.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาฮีทติ้งออยล์เดือนเม.ย.ร่วงลง 11 เซนต์ ปิดที่ 2.9538 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ดิ่งลง 15.7 เซนต์ ปิดที่ 2.8029 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 5.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลที่ว่า วิกฤตการณ์นิวเคลียร์อันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในญี่ปุ่น จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง และอาจจะทำให้ความต้องการพลังงานหดตัวลงด้วย
นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิม่าอยู่ในระดับสูงพอที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน พร้อมประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 20-30 เมตรจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ ให้อยู่ในภายในอาคารบ้านเรือน
นอกจากนี้ นายคังยังได้ตำหนิบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค (TEPCO) เกี่ยวกับวิธีจัดการปัญหาที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่าหมายเลข 1 และยังได้สั่งการอย่างเด็ดขาดไม่ให้บริษัทถอนเจ้าหน้าที่ออกจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งกำลังเกิดปัญหาอย่างต่อเนื่องหลังแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยมีทั้งการระเบิดไปจนถึงการรั่วไหลของกัมมันตรังสี
บริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และเชื้อเพลิงประเภทอื่นๆไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อผ่อนคลายภาวะพลังงานขาดแคลน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.1%