ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) ราคาสัญญาธัญพืชร่วงลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติจากเหตุแผ่นดินไหวและวิกฤตินิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่รุนแรงขึ้นอาจทำให้อุปสงค์วัตถุดิบของญี่ปุ่นลดลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค. ดิ่ง 30 เซนต์ หรือ 4.5% ปิดที่ 6.36 ดอลลาร์ต่อบุชเชลส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ทรุด 53 เซนต์ หรือ 7.4% แตะที่ 6.6775 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.ร่วง 70 เซนต์ หรือ 5.2% แตะที่ 12.7 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมา ไดอิชิ เมื่อวานนี้ พร้อมเกิดการแพร่กระจายของกัมมันตรังสีในระดับที่เป็นอันตราย โดย 3 ใน 6 เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ และคลื่นสึนามิที่ตามมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
วิกฤตินิวเคลียร์ในญี่ปุ่นได้กระตุ้นให้เกิดการเทขาย เช่น หลักทรัพย์ และ สินค้าโภคภัณฑ์ จากความตื่นตระหนกในตลาดทั่วโลก ในขณะที่ตลาดธัญพืชก็ได้รับแรงกดดันเช่นเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนลดโพสิชั่นในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ลงอย่าง รวมทั้งเปลี่ยนไปถือครองเงินสดเนื่องจากควมวิตกเกี่ยวกับระดับกัมมันตรังสีที่สูงขึ้น
เทรดเดอร์กล่าวถึงการเก็งกำไรว่าอุปสงค์วัตถุดิบในระยะสั้นของญี่ปุ่นจะลดลงอย่างมากและอาจต้องใช้เวลานานในการสร้างอุปสงค์ใหม่ ส่งผลให้ราคาธัญพืชร่วงลง ในขณะเดียวกัน เหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นยังทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดธัญพืชมากขึ้น
นายทิม แฮนนาแกน นักวิเคราห์อาวุโสจาก PFGBest Inc. ในชิคาโก้กล่าวว่า "เหตุแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายแก่ท่าเรือและถนน ทำให้ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฟื้นฟูท่าเรือทางตะวันออก ส่วนท่าเรือในภาคใต้และภาคตะวันตกที่ห่างออกไป อาจถูกใช้ในการรับสินค้าเนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนขาดแคลนอาหาร"
นายแฮนนาแกนกล่าวเสริมว่า เทรดเดอร์ยังวิตกกังวลว่าปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ญี่ปุ่นต้องปิดท่าเรืออย่างไม่มีกำหนด