ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) ราคาสัญญาถั่วเหลืองดีดกลับมาเพิ่มขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวลต่อผลผลิตที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในบราซิล ส่วนข้าวโพดและข้าวสาลีลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะนักลงทุนมีความวิตกว่าอุปสงค์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะสั้นของญี่ปุ่นอาจลดลงเนื่องจากโรงงานต่างๆได้ปิดทำการหรือได้รับความเสียหาย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค. ร่วง 19.5 เซนต์ หรือ 3.1% ปิดที่ 6.165 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 5.75 เซนต์ หรือ 0.9% แตะที่ 6.62 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 1.3% แตะที่ 12.87 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า ราคาสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเนื่องจากการคาดการณ์ว่าผลผลิตของบราซิลจะลดลงทั้งปริมาณและคุณภาพเพราะสภาพอากาศอาจมีความชื้นต่อเนื่องอาจจะรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่เพาะปลูกในช่วงที่สำคัญ
ในขณะเดียวกัน ถั่วเหลืองยังได้รับแรงหนุนจากความวิตกว่าพื้นที่เพาะปลูกในสหรัฐอาจต่ำกว่าที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐประเมินไว้ที่ 78 ล้านเอเคอร์
นายเดวิด ไฮทาวเวอร์ ประธานบริษัทเดอะ ไฮทาวเวอร์ รีพอร์ท ซึ่งให้บริการวิเคราะห์หลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ในชิคาโก้กล่าวว่า "เราเชื่อมั่นมากขึ้นว่า บางทีพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองอาจมีไม่มากพอต่อความต้องการและยิ่งทำให้ราคาสูงมากขึ้น"
ราคาข้าวสาลีและข้าวโพดได้รับผลกระทบหลังจากที่คณะกรรมาธิการด้านพลังงานของอียูได้แสดงความคิดเห็นต่อวิกฤตินิวเคลียร์ในญี่ปุ่นว่าสถานการณ์เกือบจะอยู่นอกเหนือการควบคุมและยิ่งจะเลวร้ายลงมากขึ้น ขณะที่มีการอพยพพนักงานออกจากพื้นที่
เทรดเดอร์กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกว่าภัยพิบัติในญี่ปุ่นอาจทำให้อุปสงค์ต่อสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรลดลงมากขึ้น ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดธัญพืชมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน