สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) หลังจากลิเบียประกาศหยุดยิงและยุติปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีมติให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องพลเมืองในลิเบีย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ขยับลง 35 เซนต์ ปิดที่ 101.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 4.06 เซนต์ ปิดที่ 3.0243 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ทรงตัวที่ระดับ 2.9494 ดอลลาร์/แกลลอน
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 88 เซนต์ ปิดที่ 113.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในระหว่างวันนั้น สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 103.66 ดอลลาร์ หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส เตรียมใช้ปฏิบัติการทางทหารกับลิเบีย ตามมติของ UNSC ที่อนุมัตให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อลิเบียและกำหนดเขตห้ามบินเพื่อปกป้องพลเรือนลิเบียจากกองกำลังทหารของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย
แต่สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงทันทีเมื่อนายมูซา คูซา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศลิเบียเปิดเผยว่า รัฐบาลลิเบียประกาศการหยุดยิงและยุติปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดแล้วเมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปกป้องพลเรือนและเพื่อให้เป็นไปตามมติของ UNSC
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงอย่างหนักจากการคาดการณ์ที่ว่า ญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก จะใช้น้ำมันและก๊าซในปริมาณที่น้อยลง เพราะภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ญี่ปุ่นจะนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นในไม่ช้านี้ เพื่อชดเชยภาวะขาดแคลนพลังงานหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
บริษัทเชฟรอนยืนยันว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะขนส่งน้ำมันดิบจากโรงงานในอินโดนีเซียไปให้กับบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น เพื่อบรรเทาภาวะพลังงานขาดแคลน ขณะที่รอยัล ดัทช์ เชลล์ ยืนยันว่าจะจัดหาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้กับญี่ปุ่นเช่นกัน
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในระยะนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก เพราะจะทำให้ต้นทุนอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่งปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทผลิตรถยนต์ด้วย