ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิกฤตลิเบีย,ตอ.กลาง หนุนน้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.26

ข่าวต่างประเทศ Tuesday March 22, 2011 07:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) เนื่องจากการโจมตีทางอากาศในลิเบียของกองกำลังชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน นอกจากนี้ เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศต่างๆของตะวันออกกลางยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 102.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 101.66-103.35 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 114.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากมีรายงานว่า กองกำลังทหารชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐ ได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในลิเบีย รวมถึงการยิงจรวดขีปนาวุธโทมาฮอค เพื่อปกป้องพลเรือนลิเบียจากการกองทัพของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี

กองกำลังทหารชาติพันธมิต รวมถึงสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส ยังคงเดินหน้าโจมตีลิเบีย โดยเรือดำน้ำของกองทัพอังกฤษที่ประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยังคงระดมยิงขีปนาวุธโทมาฮอคยังคงโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของลิเบียซึ่งอยู่รอบกรุงทริโปลีและเมืองมิสราตา

ลิเบียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับที่ 15 ของโลกและมีกำลังการผลิต 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ปัจจุบันกำลังการผลิตน้ำมันของลิเบียทรุดตัวลงอย่างหนัก ขณะที่นักลงทุนในตลาดคาดว่าเหตุการณ์โจมตีลิเบียซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น จะสร้างความเสียหายต่อโรงกลั่นและทำให้เกิดภาวะพลังงานขาดแคลน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ยังยืดเยื้อในตะวันออกกลาง รวมถึงซีเรีย เยเมน บาห์เรน และอิหร่าน โดยที่ซีเรียนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมได้จุดไฟเผาสำนักงานใหญ่ของพรรคบาธซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในเมืองเดรา ส่วนสถานการณ์ที่เยเมนนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงนักการทูตได้ออกมาสนับสนุนมวลชนที่ลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซอและห์

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะเพิ่มขึ้น 0.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ