สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ขยับขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.1% แตะที่ 104.37 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 104.27 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลที่ว่าสถานการณ์ในลิเบียจะทวีความรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาด
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มี.ค. พุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 355.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมาเพิ่มขึ้น 1.69 ล้านบาร์เรล แตะระดับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41.89 ล้านบาร์เรล ซึ่งสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐมีการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.1 ล้านบาร์เรล แม้สถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลางส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ประกาศแผนลดการนำเข้าน้ำมันลงในอัตรา 1 ใน 3 ภายในปี 2568 เพื่อประกันความมั่นคงด้านอุปทานพลังงานของสหรัฐในอนาคต
"วันนี้ ผมกำลังกำหนดเป้าหมายใหม่ หนึ่งในนั้นคือการลดนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จำเป็นและสามารถบรรลุผลได้ เมื่อครั้งที่ผมได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้นำนั้น สหรัฐอเมริกาได้นำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศสูงถึง 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และเราจะต้องลดการนำเข้าลง 1 ใน 3" โอบามากล่าวในระหว่างปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ในนครวอชิงตันดีซี