ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: วิกฤติตอ.กลางหนุนน้ำมันดิบปิดทำนิวไฮ $108.83

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 7, 2011 07:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองในลิเบียและประเทศตะวันออกกลางยังคงทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านอุปทานพลังงาน โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นแม้ทางการสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ดีดขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 108.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 2551

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ค.ขยับขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 122.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถานการณ์ตึงเครียดในลิเบียและตะวันออกกลางยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยกองกำลังสนับสนุนพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย และกลุ่มกบฎต่อต้านกัดดาฟี ยังคงเดินหน้าสู้รบกันอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ส่วนที่บาห์เรนนั้นมีรายงานว่า บริษัทหลายแห่งได้บีบให้พนักงานมุสลิมนิกายชีอะห์หลายพันคนออกจากงาน หลังจากที่พนักงานเหล่านี้ได้เข้าร่วมประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย

วิกฤตการณ์ในลิเบียและตะวันออกกลางทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ แม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 เม.ย.พุ่งขึ้น 2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 357.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล แตะที่ 153.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และ สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 400,000 บาร์เรล แตะที่ 216.7 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 84.4%

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยุโร หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นเกินเป้าหมายของอีซีบี

รมว.พลังงานของประเทศสมาชิกโอเปคยืนยันว่า โอเปคยังไม่มีความจำเป็นที่จะเพิ่มเพดานการผลิตในระยะนี้ เพราะมองว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นผลมาจากการเก็งกำไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ