ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 เม.ย.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังโกลด์แมน แซคส์แนะนักลงทุนระบายสัญญาซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากนักลงทุนมีความรู้สึกว่าตลาดอาจปรับตัวพลิกผันในระยะใกล้ ส่วนราคาสัญญาข้าวสาลีดีดตัวกลับมาเพิ่มขึ้น หลังร่วงติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากมีแรงช้อนซื้อ ขณะที่ถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 12.25 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 7.42 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.บวก 3.75 เซนต์ หรือ 0.5 ที่ 7.4425 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ 0.1% ที่ 13.3175 ดอลลาร์/บุชเชล
โกลด์แมน แซคส์แนะนำว่า นักลงทุนควรปิดสถานะการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์บางรายการ รวมทั้ง น้ำมัน ฝ้าย และ ถั่วเหลือง ด้านเทรดเดอร์อ้างว่า คำแนะนำของโกลด์แมน แซคส์กระตุ้นให้เกิดการระบายสัญญาซื้อต่อเนื่องทั่วทั้งตลาดธัญพืช
ใขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนมีนาคม เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.3% และเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551
เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันจากข้อมูลดัชนีซีพีไอที่เพิ่มขึ้นสูงเกินคาดของจีน ที่ยังทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อการใช้มาตรการคุมเข้มของจีน ซึ่งอาจทำให้อุปสงค์ด้านธัญพืชลดลง
นายเทรส นิปปา ซีอีโอจากโลตัส โบรกเกอร์เรจกล่าวว่า "ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อธัญพืชในขณะนี้และรวมไปถึงอีก 90-100 วันข้างหน้าน่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศ เนื่องจากยอดสต็อคข้าวโพดในตลาดโลกยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ทุกคนจึงจับตามองสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและทุกอย่างจะต้องมีความสมบูรณ์"
ด้านตลาดข้าวสาลี นักวิเคราะห์กล่าวว่า แนวความคิดที่ว่า ข้าวสาลีในรัฐแคนซัสอาจได้รับน้ำฝนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นแรงกดดันต่อตลาด เนื่องจากฝนอาจทำให้ภาวะพืชผลดีขึ้นและลดความวิตกกังวลต่อความเป็นไปได้ที่ผลผลิตจะลดลงอย่างมากลง
ในขณะเดียวกัน การปรับฐานอย่างรุนแรงของตลาดข้าวสาลียังทำให้มีกลุ่มผู้ซื้อเก็งกำไรเข้ามาในตลาดและทำให้ราคาขยับขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน