สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายงานสัปดาห์ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเดือนพ.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันอังคารที่ 19 เม.ย. ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 108.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนปรับตัวลง 28 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 121.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เพราะสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้นักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆสามารถซื้อสัญญาน้ำมันดิบในราคาที่ถูกลง และยังกระตุ้นภาวะการซื้อขายให้คึกคักขึ้นด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐยืนยันว่า สหรัฐไม่มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือขั้น AAA แม้ว่าสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ตาม
นักวิเคราะห์จากโอพีไอเอส ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกด้านพลังงานได้แสดงความเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้ชาวอเมริกันลดการนำยานยนต์ออกไปขับขี่ และซื้อเชื้อเพลิงน้อยลง
สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินค้าปลีกทั่วประเทศมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 3.91 ดอลลาร์/แกลลอนในฤดูการขับขี่ยานยนต์ของสหรัฐในปีนี้ ขณะที่โอพีไอเอสประเมินว่า ราคาน้ำมันเบนซินอาจพุ่งขึ้นแตะ 4 ดอลลาร์/แกลลอน (1.05 ดอลลาร์/ลิตร) ในปีนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 เม.ย.ซึ่งทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.9%