สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้ต้นทุนพลังงานปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 84 เซนต์ ปิดที่ 112.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 123.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบน่าดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นักวิเคราะห์หลายคน รวมทั้งนักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอลคาดว่า ความต้องการน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอีก เพื่อรองรับเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่าความต้องการน้ำมันในประเทศจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงขานรับรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้ต้นทุนพลังงานปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 เม.ย.ร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล แตะที่ 357 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 208.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดิบถูกกดันในระหว่างวันเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 เม.ย.ปรับตัวลง 13,000 ราย แตะระดับ 403,000 ราย น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 392,000 ราย
*ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย.นี้ เนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday)