สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกกลาง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 112.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 33 เซนต์ แตะที่ 123.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบอาจทำให้อุปสงค์ปรับตัวลดลง และจะทำให้ช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันชะลอตัวลงด้วย
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมของตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ รวมทั้งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และจะเดินหน้าโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ไปจนจบโครงการในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและจะหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นอีก
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) ร่วมกับไรท์เอ็กซ์เพรส แอนด์ ออยล์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยทั่วประเทศสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 34 เมื่อวานนี้ โดยราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3.86 ดอลลาร์/แกลลอน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐได้ปรับตัวขึ้นไปแล้ว 32% นับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.เป็นต้นมา
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1%