สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาบ้านปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมุมุมมองเศรษฐกิจภายหลังการประชุมในวันพุธที่ 27 เม.ย.นี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ขยับลง 7 เซนต์ ปิดที่ 112.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.84 เซนต์ ปิดที่ 3.2273 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.87 เซนต์ ปิดที่ 3.3072 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 124.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ที่ระบุว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 สะท้อนให้เห็นภาวะซบเซาในตลาดอสังหาของสหรัฐ แม้ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 0.3% ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวขึ้นอีกในวันอังคาร หลังจากมีรายงานว่าเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องที่โรงกลั่นน้ำมัน 3 แห่งในมลรัฐเท็กซัส ซึ่งได้แก่โรงกลั่นของบริษัทบีพี, มาราธอน ออยล์ และเวเลโร ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า หากภาวะขัดข้องที่โรงกลั่นยังไม่สามารถแก้ไขได้ ก็อาจทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซินของโรงกลั่นเหล่านี้ปรับตัวลดลงรวมกันประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ในคืนวันพุธที่ 27 เม.ย.ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการประชุมที่มีนัยสำคัญและตลาดการเงินทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยมีความเป็นไปได้ว่าเบอร์นันเก้จะเปิดเผยถึงมาตรการในอนาคตที่พุ่งเป้ายับยั้งการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานและอาหาร
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คณะกรรมการเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง และจะเดินหน้าโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการซื้อพันธบัตรวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ไปจนจบโครงการในเดือนมิ.ย.ปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1%