ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 พ.ค.) ราคาสัญญาถั่วเหลืองปิดร่วงลง เนื่องจากมีแรงเทขายจำนวนมากในตลาดพลังงานและการแข็งค่าครั้งใหม่ของเงินสกุลดอลลาร์ ส่วนข้าวโพดลดลงต่อเนื่องหลังมีการคาดการณ์ว่าเขตมิดเวสต์ของสหรัฐจะมีสภาพอากาศที่แห้งขึ้น ขณะที่ข้าวสาลีปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 10.75 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 7.2375 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ดีดตัว 1.5 เซนต์ หรือ 0.2% ที่ 7.9325 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ดิ่ง 29.25 เซนต์ หรือ 2.1% ที่ 13.6375 ดอลลาร์/บุชเชล
เทรดเดอร์อ้างถึงภาวะตลาดภายนอกที่อ่อนแรงลง ได้แก่ แรงเทขายจำนวนมากในตลาดโลหะเงิน การอ่อนแรงลงของพลังงาน และการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ ต่างก็ยิ่งเพิ่มบรรยากาศที่เป็นลบต่อตลาดธัญพืช
นายลินคอล์น เอลลิส กรรมการผู้จัดการบริษัท ลินน์ กรุ๊ป อิงค์ กล่าวว่า "ตลาดได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก โดยการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ทำให้ตลาดสิค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลงรวมทั้งตลาดน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่มีแรงกระตุ้นจากการเทขายหุ้น"
เทรดเดอร์อ้างว่า การคาดการณ์ที่ว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดในภาคตะวันออกและภาคใต้อาจจำเป็นเป็นต้องเปลี่ยนไปปลูกถั่วเหลืองแทน ยิ่งทำให้ตลาดถั่วเหลืองได้รับแรงกดดันมากขึ้น
ส่วนในตลาดข้าวสาลี การคาดการณ์ที่ว่าสภาพอากาศที่แห้งแล้งจะทำให้พืชในเขตเกรทเพลนส์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูหนาว และภาคตะวันตกของยุโรป ได้รับความเสียหาย รวมทั้งความล่าช้าในการเพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต่างก็เป็นแรงหนุนต่อข้าวสาลี
ทั้งนี้ ราคาสัญญาข้าวโพดได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการคาดการณ์ว่าสภาพอากาศที่แห้งขึ้นในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐจะช่วยให้เกษตรกรสามารถเร่งการเพาะปลูกได้ หลังมีสภาพฝนตกหนักและพื้นที่ที่ชื้นแฉะ ทำให้การเพาะปลูกต้องล่าช้าออกไปถึงสองสัปดาห์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน