สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในซีเรียช่วยหนุนให้มีแรงซื้อส่งเข้ามาในสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนาแน่น
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 5.37 ดอลลาร์ หรือ 5.53% ปิดที่ 102.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 6.77 ดอลลาร์ หรือ 6.2% ปิดที่ 115.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลง 0.3% เมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีมูลค่าถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ขณะเดียวกัน ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองและการชุมนุมประท้วงทั้งในซีเรียและอียิปต์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการลำเลียงน้ำมันในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้กับแม่น้ำมิสซิสซิปปีอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันเบนซิน และจากการคาดการณ์ที่ว่าความต้องการน้ำมันเบนซินในฤดูการขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ค.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะ 100,000 บาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะเพิ่มขึ้น 0.8%