ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวานนี้ (17 พ.ค.) ราคาสัญญาธัญพืชพุ่งแรง หลังกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) รายงานว่า ความคืบหน้าในการเพาะปลูกยังคงล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ทะยาน 22.75 เซนต์ หรือ 3.26% ปิดที่ 7.2025 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ทะยาน 27.5 เซนต์ หรือ 3.7% ที่ 7.64 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 14.5 เซนต์ หรือ 0.23% ที่ 13.41 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ความคืบหน้าในการเพาะปลูกเป็นความวิตกกังวลที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน หลังการรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐบ่งชี้ว่า ความคืบหน้าในการเพาะปลูกพืชยังล่าช้ากว่าค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ตลาดยังกล่าวเสริมว่า มีความเชื่ออย่างกว้างขวางว่า สภาพอากาศที่ชื้นแฉะในพื้นที่เพาะปลูกธัญพืชของสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้มีผลกระทบต่อการเพาะปลูกและทำให้การเพาะปลูกต้องล่าช้าออกไป โดยฝนที่ตกในบางพื้นที่ของรัฐอิลลินอยส์ อินเดียนา และ โอไฮโอ มีปริมาณมากกว่าปกติถึง 2 เท่า ในช่วงเดือนที่แล้ว และการเพาะปลูกบริเวณแม่น้ำมิสซิสซิปปีได้ยุติลงอย่างไม่มีกำหนด อันเนื่องมาจากปริมาณน้ำที่ระดับสูง
USDA รายงานว่า การเพาะปลูกข้าวโพดมีความคืบหน้าราว 63% ในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำกว่าตัวเลขเมื่อปีที่แล้วและค่าเฉลี่ยในปีก่อนๆ หน้านี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ความคืบหน้าในการเพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูใบไม้ผลิและถั่วเหลืองในสัปดาห์ที่แล้วยังอยู่ที่เพียง 36% และ 22% ตามลำดับ
ในขณะเดียวกัน คุณภาพข้าวสาลีที่เพาะปลูกในช่วงฤดูหนาวที่ลดลงของสหรัฐและสภาพอากาศที่แห้งขึ้นในฝรั่งเศสยังเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดข้าวสาลีอีกด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน