สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินของบางประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 3.19 ดอลลาร์ หรือ 3.29% ปิดที่ 100.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นที่ปรับตัวลงอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนก็ตาม
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ค.ปรับตัวลดลง 15,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 370.3 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 143.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 205.90 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.5% แตะระดับ 83.2% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
ก่อนหน้านี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันกลั่นของสรหัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลง 2.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 676,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5%
นอกเหนือจากสต็อกน้ำมันที่ลดลงเกินคาดแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังเริ่มประเมินความเสี่ยงในตลาดและเลือกที่จะเข้าซื้อสัญญาน้ำมันในระดับต่ำ