ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวานนี้ (19 พ.ค.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนได้เทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันในการซื้อขายในช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่น่าผิดหวังของสหรัฐได้เร่งให้มีการเทขายทำกำไรมากขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.5 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 7.4825 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.6% ที่ 8.12 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ปิดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 13.795 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า นักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายโพสิชั่นเพื่อทำกำไรในขณะที่ราคายังอยู่ในระดับที่สูง เนื่องจากเชื่อว่าการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดธัญพืชในช่วงที่ผ่านมาเป็นการปรับตัวที่มากเกินไปอยู่บ้าง ในขณะที่ข้าวสาลีพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่วนข้าวโพดและถั่วเหลืองก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 1 เดือน
นอกจากนี้ เทรดเดอร์กล่าวเสริมว่า ข้อมูลภาวะเศรษกิจมหภาคที่น่าผิดหวังของสหรัฐยังเพิ่มแรงกดดันต่อการเทขายทำกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากการเติบโตที่ไม่สดใสอาจทำให้อุปสงค์ลดลง
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 0.8% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม สู่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ขณะที่ Conference Board รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจยังลดลง 0.3% ในเดือนเมษายน และเป็นการปรับตัวลงครั้งแระเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
ส่วนตัวเลขการส่งออกของสหรัฐไม่ได้มีผลต่อตลาดโดยรวม เนื่องจากข้อมูลโดยทั่วไปสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักลงทุน โดยข้อมูลสถิติของกระทรวงเกษตรของสหรัฐบ่งชี้ว่า ในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 12 พฤษภาคม ยอดการส่งออกข้าวโพดของสหรัฐมีจำนวนทั้งสิ้น 1,151,700 ล้านตัน ส่วนยอดส่งออกข้าวสาลีและถั่วเหลืองอยู่ที่ 798,900 ตัน และ 116,200 ตัน ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน