ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวลง โดยมีปัจจัยถ่วงจากผลกระทบจากภายนอกตลาด รวมทั้งสัญญาณที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง ซึ่งอาจจะลดความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรทั่วโลก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ปรับลง 5.5 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 7.54 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ติดลบ 3.5 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 8.03 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 6.5 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 13.7375 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า แม้ปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งสำหรับราคาข้าวโพดและข้าวสาลี เมื่อพิจารณาจากสภาพอากาศที่เลวร้ายทั่วโลก แต่ก็มีแรงเทขายในตลาดธัญพืชอยู่บ้าง
“ดอลลาร์แข็งแกร่งมากในวันนี้ ซึ่งโดยพื้นฐานได้เริ่มนำไปสู่การเทขาย แต่ไม่มากนัก"
เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า ความวิตกที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤติหนี้สินยูโรโซนได้กระตุ้นให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และมองหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เช่น ดอลลาร์และทอง
ส่วนยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเทียบดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งประเมินการปรับตัวของดอลลาร์เทียบตะกร้าสกุลเงินนั้น พุ่งขึ้นเกือบ 1% เหนือ 76 โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับการร่วงลงอย่างรุนแรงของราคาน้ำมันดิบต่างก็ทำให้เกิดบรรยากาศเชิงลบสำหรับตลาดธัญพืช
นอกจากนี้ ผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตของจีนในเดือนนี้ได้ขยายตัวในอัตราที่เชื่องช้าที่สุดในรอบ 10 เดือน ก็ยิ่งเพิ่มความกังวลที่ว่าความพยายามของรัฐบาลจีนในการสกัดเงินเฟ้ออาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัว ซึ่งจะลดความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทธัญพืช