สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ขานรับโกลด์แมน แซคส์ ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐจะปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.89 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 99.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นอย่างคึกคัก หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ประกาศเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในรอบ 12 เดือนขึ้นสู่ระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 107 ดอลลาร์/บาร์เรล และได้เพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ณ สิ้นปีหน้าขึ้นสู่ระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่มอร์แกน สแตนเลย์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ขึ้นเป็น 120 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิม 100 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มคาดการณ์ราคาในปีหน้าขึ้นเป็น 130 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความต้องการน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้น รวมทั้งการสูญเสียกำลังการผลิตจากวิกฤตการณ์ในลิเบีย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า อุปสงค์ภายในประเทศช่วยหนุนให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น 1.5% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2553
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันที่ลดลงของลิเบียอาจทำให้กำลังการผลิตส่วนเกินของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับตัวลดลงด้วย โดยข้อมูลบนเว็บไซต์ของ Joint Organization Data Initiative ระบุว่า ยอดการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีแหล่งสำรองมากน้ำมันดิบมากที่สุดในแอฟริกา ทรุดฮวบลง 79% ในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. เนื่องจากความไม่สงบทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการลำเลียงขนส่งน้ำมัน
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปคจะจัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.5%