ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) ราคาสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลง เนื่องการเทขายทำกำไรของนักลงทุน และความวิตกกังวลเมื่อเร็วๆ นี้ที่ว่า ราคาที่พุ่งขึ้นอาจทำให้อุปสงค์ภายในประเทศและการส่งออกอ่อนแรงลง ส่วนราคาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเล็กน้อย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 20.75 เซนต์ หรือ 2.8% ปิดที่ 7.3325 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 23.25 เซนต์ หรือ 2.9% ปิดที่ 7.7975 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 13.7225 ดอลลาร์/บุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า มีสัญญาณบ่งชี้มากขึ้นว่าอุปสงค์จากผู้นำเข้า, ผู้แปรรูป และ นักลงทุน อาจชะลอตัวลง หลังจากที่ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีพุ่งแรงในสัปดาห์ที่แล้ว
นายทิม แฮนนาแกน นักวิเคราะห์ธัญพืชอาวุโสจาก PFGbest ในชิคาโก้ กล่าวว่า "ผู้นำเข้าได้จับตาดูคาดการณ์ผลผลิตครั้งใหม่อย่างอดทนหลังการเพาะปลูกเสร็จสิ้นลง ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะรอให้ราคาผลผลิตที่เก็บเกี่ยวลดลงหรือเข้าไปซื้อเนื่องจากกลัวว่าผลผลิตอาจลดลงและราคาอาจเพิ่มขึ้นในภายหลัง"
ทั้งนี้ ข้าวโพดและถั่วเหลืองกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาถั่วเหลือง ข้าวโพด และ ปศุสัตว์มีชีวิตลง นอกจากนี้ กระแสข่าวลือที่ว่า รัสเซียและอินเดียอาจมีผลผลิตข้าวสาลีจำนวนมากในปีนี้เพื่อชดเชยผลผลิตที่ลดลงในสหรัฐยังกระตุ้นให้เกิดการระบายสัญญาซื้อในตลาดข้าวสาลี
เทรดเดออร์ชี้ว่า การอ่อนแรงลงของตลาดข้าวโพดและข้าวสาลีเป็นการเทขายทางเทคนิคและการทำกำไรหลังจากที่ราคาธัญพืชแต่ละชนิดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการดีดตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการเทขายอย่างกว้างขวางในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาสินค้านับแต่ต้นเดือนพฤษภาคม สำนักข่าวซินหัวรายงาน