สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ แต่ราคาน้ำมันก็ไม่สามารถปรับเพิ่มได้มากกว่านี้ เนื่องจากถูกฉุดโดยข้อมูลเศรษฐกิจบางตัวที่น่าผิดหวัง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.บวก 36 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 100.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปิดเหนือระดับ 100 ดอลลาร์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.ขยับลง 2 เซนต์ ปิดที่ 115.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินยูโรแข็งค่าเหนือเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่นายจอร์จ โปรโวปูลอส ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซ กล่าวว่า กรีซจะชำระหนี้ทั้งหมดได้โดยไม่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ หากสามารถทำตามแผนรัดเข็มขัดได้ ขณะที่ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส ก็ออกมาต่อต้านการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
นอกจากนั้นการที่ตลาดต่างๆในสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันเมโมเรียลเดย์ ยังเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น เนื่องจากโดยปกติราคาน้ำมันดิบจะสูงขึ้นก่อนถึงวันหยุดยาว
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นไปมากกว่านี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจบางตัวน่าผิดหวัง โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 11.6% แตะ 81.9 จุดในเดือนเมษายน ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1%
ข้อมูลดังกล่าวทำลายความหวังของนักลงทุนที่คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังจะฟื้นตัว และส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันดิบในสหรัฐในอนาคต
นอกจากนั้นกระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลขยายตัว 0.4% ในเดือนเมษายน ซึ่งขยายตัวน้อยที่สุดในรอบ 3 เดือน บ่งชี้ว่าสถานการณ์การบริโภคยังคงซบเซา