ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวลดลงหลังจากที่รัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก ประกาศตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกธัญพืชในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่แห้งแล้งในทั่วโลกยังเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองในระดับหนึ่ง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 11 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 7.475 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ทรุด 37.5 เซนต์ หรือ 4.57% ปิดที่ 7.8225 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 3.75 เซนต์ หรือ 0.27% มาปิดที่ 13.76 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า การรายงานข่าวที่ว่ารัสเซียได้กลับมาส่งออกธัญพืชอีกครั้งก็เพียงพอที่จะกระตุ้นการเทขายในตลาดข้าวสาลี ซึ่งปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์
เจ้าหน้าที่จากรัสเซียกล่าวว่า สหภาพธัญพืชของรัสเซียได้ประเมินว่ารัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสองของโลก อาจส่งออกข้าวสาลีประมาณ 15-20 ล้านตันในปีนี้ โดยการเก็บเกี่ยวภายในประเทศอาจได้ผลผลิตสูงถึง 85-90 ล้านตัน
ทั้งนี้ บรรยากาศที่อ่อนแรงลงของตลาดข้าวสาลี ยังมีผลทำให้ตลาดข้าวโพดและถั่วเหลืองต้องอ่อนแรงตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดข้าวโพดยังได้รับปัจจัยหนุนในระดับหนึ่งจากภาวะแห้งแล้งในประเทศจีน ซึ่งรายงานว่าพื้นที่การเกษตรกว่า 7 ล้านเฮคเตอร์ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง
ในขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ได้จับตามองความเคลื่อนไหวของคนงานท่าเรือในอาร์เจนตินาที่ออกมาขู่จะขัดขวางการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือโรซาริโอ เนื่องจากความขัดแย้งด้านแรงงานกับบริษัทปุ๋ยรายหนึ่ง นอกจากนี้ ความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่องต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งในยุโรปและความเป็นไปได้ที่ผลผลิตเรพซีดจะลดลงยังช่วยสกัดการลดลงของราคาถั่วเหลือง สำนักข่าวซินหัวรายงาน