ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) การยกเลิกสั่งห้ามการส่งออกของรัสเซียผลักดันให้ราคาสัญญาข้าวสาลีปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ ขณะที่สภาพอากาศที่ดีขึ้นในบางพื้นที่ของยุโรปยังช่วยเพิ่มบรรยากาศที่เป็นลบต่อตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งข้าวโพดและข้าวสาลีดีดตัวกลับมาเพิ่มขึ้นหลังการรายงานของกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) บ่งชี้ถึงความล่าช้าในการเพาะปลูกในสหรัฐ
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 7.585 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 23 เซนต์ หรือ 2.9% ปิดที่ 7.5925 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 10.25 เซนต์ หรือ 0.75% มาปิดที่ 13.8625 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า การรายงานข่าวเกี่ยวกับปริมาณน้ำฝนในบางพื้นที่ของยุโรปและกระสือข่าวลือเกี่ยวกับการแข่งขันด้านการส่งออกของรัสเซียในปีนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นการเทขายทำกำไรมากขึ้น ซึ่งกดราคาข้าวสาลีร่วงลงแตะสถิติต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์
เมื่อเร็วๆ นี้ รัสเซีย ซึ่งเคยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้ประกาศกลับมาส่งออกธัญพืชเช่นเดิม เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป
นอกจากนี้ การรายงานสภาพอากาศคาดว่าจะมีฝนตกในฝรั่งเศสในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากที่น้ำฝนเป็นผลดีต่อผลผลิตในเยอรมนี ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดความเสียหายของพืชจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างรุนแรง โดยฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของยุโรป ประสบกับภาวะภัยแล้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี แต่เทรดเดอร์บางรายเชื่อว่าพืชที่เสียหายบางส่วนไม่สามารถฟื้นตัวได้
ด้านตลาดข้าวโพดมีทั้งแรงซื้อและแรงเทขายในช่วงเช้าเมื่อวานนี้ แต่แรงซื้อที่เพิ่มขึ้นจากเทรดเดอร์กองทุนได้ช่วยหนุนให้ราคาปิดเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดย USDA รายงานว่า การเพาะปลูกข้าวโพดได้แล้วเสร็จไปเพียง 86% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ 97% ในปีก่อน นอกจากนี้ การรายงานภาวะผลผลิตประจำสัปดาห์ยังบ่งชี้ว่า มีข้าวโพดเพียง 63% เท่านั้นที่ได้รับเกรดที่ดี/ดีมาก เมื่อเทียบกับ 76% และค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ 67%
ส่วนราคาถั่วเหลืองก็ได้รับแรงหนุนจากการรายงานความคืบหน้าในการเพาะปลูกของ USDA เช่นเดียวกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าแล้วเสร็จไปเพียง 51% เมื่อเทียบกับ 71% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน