สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวลง 67 เซนต์ แตะระดับ 99.62 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (2 มิ.ย.) หลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และภาคการผลิตของสหรัฐและจีนที่ชะลอตัวลง
สัญญาน้ำมัน NYMEX ร่วงลงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก API เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 พ.ค. พุ่งขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันหลังจากสมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ค.ร่วงลง 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 52 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสองเดือน หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการควบคุมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 53.5 จุด น้อยกว่าเดือนพ.ค.ที่ขยายตัวได้ดีถึง 60.4 จุด และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 57.7 จุด
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ (2 มิ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.6%