ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 มิ.ย.) ราคาสัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศในอเมริกาเหนือและยุโรป ส่วนสัญญาข้าวโพดปรับตัวลดลงท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับแรงซื้อที่สูงเกินไปและข่าวในเชิงลบเกี่ยวกับการส่งออก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 12.5 เซนต์ หรือ 1.63% ปิดที่ 7.54 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 7.7375 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 7.5 เซนต์ หรือ 0.5% มาปิดที่ 14.145 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า นักลงทุนวิตกกังวลว่าสภาพอากาศที่แห้งแล้งในสหรัฐและในบางพื้นที่ของยุโรปอาจทำให้อุปทานข้าวสาลีในตลาดโลกลดลง นอกจากนี้ การคาดการณ์เกี่ยวกับฝนที่ตกหนักในแคนาดายังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสหรัฐ แคนาดา และ อียู เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งได้ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตข้าวสาลีของยุโรปลง 5.4% และปรับลดคาดการณ์ผลผลิตข้าวสาลีของแคนาดาลง 1.8% โดยให้เหตุผลว่า สภาพอากาศจะเพิ่มแรงกดดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีก
แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาข้าวโพดปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากที่เพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกัน เนื่องจากกระแสข่าวลือเกี่ยวกับแรงซื้อในตลาดที่สูงเกินไป
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรของสหรัฐยังรายงานว่า ยอดส่งออกข้าวโพดสำหรับการส่งมอบในปี 2553/2554 อยู่ที่ 471,600 ตัน ลดลง 35% ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 พฤษภาคม ลดลง 18% เมื่อเทียบกับตัวเลขเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์ ส่วนยอดส่งออกสำหรับปี 2554/2555 อยู่ที่ 229,300 ตัน รวมเป็นยอดส่งออกทั้งสิ้น 700,900 ตัน
ทั้งนี้ ยอดส่งออกรวมสำหรับข้าวสาลีและถั่วเหลืองอยู่ที่ 308,800 และ 155,500 ตามลำดับ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน