องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จำเป็นต้องได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานระหว่างประเทศ รวมทั้งต้องดำเนินงานอย่างโปร่งใสมากขึ้น และต้องมีการแทรกแซงตลาดเพื่อยับยั้งภาวะฟองสบู่ เนื่องจากกระแสเก็งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าไม่สามารถเคลื่อนไหวตามกลไกอุปสงค์และอุปทานได้อีกต่อไป
ที่ประชุมด้านการค้าและการพัฒนาของยูเอ็นระบุในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า การลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้นกระตุ้นให้เกิด "พฤติกรรมแห่ลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง" และก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่ ขณะที่การคาดการณ์ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกไม่สมดุลกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น
ดัชนีราคาอาหารของยูเอ็นในเดือนพ.ค.เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก.พ. เนื่องจากสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าพุ่งสูงขึ้น โดยราคาข้าวโพดในตลาดชิคาโกและราคาโลหะเงินพุ่งกว่า 2 เท่าในปีที่ผ่านมา และราคาทองคำทะยานขึ้น 27% ส่วนราคาข้าวเพิ่มขึ้น 32%
เม็ดเงินลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2547 ทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเหมืองไม่สามารถค้นหาราคาเพื่อตัดสินใจในการป้องกันความเสี่ยง
ทั้งนี้ การนำเสนอข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานในเวลาที่เหมาะสม รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนของตลาดโดยเฉพาะในยุโรป และการเพิ่มข้อจำกัดด้านโพสิชั่น ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เกิดจากการลงทุนเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
รายงานของยูเอ็นระบุด้วยว่า การใช้ระบบภาษีเพื่อชะลอกิจกรรมการเงินในตลาดและการมีส่วนร่วมของรัฐบาลในการซื้อขายมากขึ้นนั้นจำเป็นต่อการสร้างความมั่นใจให้กับเทรดเดอร์ที่พิจารณาปัจจัยพื้นฐานด้านอุปทานและอุปสงค์ในการลงทุน