ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) ราคาสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองดีดตัวกลับมาเพิ่มขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลจากเกี่ยวกับฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของเขตคอร์น เบลท์ของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น ส่วนข้าวสาลีปรับตัวลดลงหลังยุโรปมีสภาพอากาศที่ดีขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 4.5 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 7.365 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 10.25 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 7.3375 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 10.75 เซนต์ หรือ 0.8% มาปิดที่ 13.94 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดชี้ว่า นักลงทุนมีความวิตกกังวลว่าฝนที่ตกมากขึ้นในภาคตะวันออกของเขตคอร์เบลท์ในสัปดาห์นี้อาจทำให้พื้นที่เพาะปลูกลดลง นอกจากนี้ ระดับน้ำที่สูงขึ้นของแม่น้ำมิสซูรียิ่งเพิ่มความวิตกกังวลมากขึ้น เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวโพด ถั่วเหลือง และ ข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุด
นอกจากนี้ การพยากรณ์อากาศยังบ่งชี้ว่าอาจมีปริมาณน้ำฝนเกือบ 1-2 นิ้ว ในตอนเหนือของเขตคอร์นเบลท์ของสหรัฐในอีก 5 วันข้างหน้านี้
ด้านกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) รายงานว่า การเพาะปลูกข้าวโพดมีความคืบหน้า 94% เมื่อเทียบกับ 86% ในสัปดาห์ก่อน และ 99% ในปีก่อน ส่งผลให้ยังเหลือพื้นที่ที่ยังไม่ได้ทำการเพาะปลูกอีก 5.53 ล้านเอเคอร์
ทั้งนี้ ราคาข้าวโพดยังยังได้รับแรงหนุนหลังจากที่ปรับตัวลดลงในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีกระแสข่าวลือในตลาดเกี่ยวกับแรงซื้อที่มากเกินไป
เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า ข้าวสาลียังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักอย่างต่อเนื่องจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของข้าวสาลีที่เพาะปลูกในช่วงฤดูหนาว รวมทั้งการคาดการณ์ถึงพายุและฝนตกในสัปดาห์นี้ในภาคตะวันตกของยุโรปซึ่งอาจทำให้ฝรั่งเศส เยอรมนี และ สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของยุโรปทั้ง 3 ประเทศ มีความชุ่มชื้นมากขึ้น