กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ตัดสินใจคงโควต้าการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 24.845 บาร์เรล/วัน ในการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันนี้ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ในตลาดคาดการณ์ไว้ว่า โอเปคซึ่งผลิตน้ำมันดิบได้ในสัดส่วน 40% ของผลผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก จะปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้
นายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคกล่าวว่า ที่ประชุมโอเปคตัดสินใจคงโควต้าการผลิตไว้ที่ระดับดังกล่าว หลังจากซาอุดิอาระเบียไม่สามารถโน้มน้าวสมาชิกประเทศอื่นๆของโอเปคให้ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตได้ อย่างไรก็ตาม โอเปคได้วางแผนที่จะจัดการประชุมในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพื่อทบทวนโควต้าการผลิต
รายงานระบุว่า ซาอุดิอาระเบียและสมาชิกบางประเทศของโอเปคได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนที่จะผลักดันให้ที่ประชุมโอเปคปรับเพิ่มโควต้าการผลิตเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน แต่สมาชิกบางประเทศของโอเปคที่มีท่าทีแข็งกร้าวอย่างอิหร่าน เวเนซูเอลา และอัลจีเรีย ได้ปฏิเสธข้อเสนอการปรับเพิ่มโควต้า จึงทำให้บรรยากาศการประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างตึงเครียด
ก่อนหน้านี้ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปคอาจจะปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการทั่วโลกที่สูงขึ้น และเพื่อเป้าหมายที่จะฉุดสัญญาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โอเปคได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2554 เป็น 88.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรลจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกับระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมาจากการเก็งกำไรในตลาด อันเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเมืองในแอฟริกาเหนือและกลุ่มประเทศอาหรับ