ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ยอดส่งออกสหรัฐสดใส หนุนน้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.19

ข่าวต่างประเทศ Friday June 10, 2011 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 101 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากยอดส่งออกของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงเยเมนและซีเรีย นอกจากนี้ ตลาดยังคงขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ที่ตัดสินใจไม่เพิ่มโควต้าการผลิตน้ำมันในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 101.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 119.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนยังคงเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX อย่างคึกคักหลังจากกลุ่มโอเปคสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการตัดสินใจคงโควต้าการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 24.845 บาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมโอเปคในครั้งนี้เป็นไปอย่างตึงเครียด เนื่องจากที่ประชุมมีความคิดเห็นไม่สอดคล้องกัน

นายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคเปิดเผยว่า 4 ประเทศอ่าวอาหรับที่เป็นสมาชิกโอเปค คือซาอุดิอาระเบีย คูเวต กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เสนอให้โอเปคปรับเพิ่มปริมาณการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 30.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยรวมถึงปริมาณการผลิตของอิรักด้วย แต่ 7 ชาติสมาชิกโอเปค ซึ่งประกอบด้วยอิหร่าน ลิเบีย แอลจีเรีย แองโกลา เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา และอิรัก ต้องการให้โอเปคตรึงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม ส่วนไนจีเรียแสดงจุดยืนเป็นกลาง

ทั้งนี้ โอเปคมีกำหนดจัดประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 14 ธ.ค.ที่กรุงเวียนนา ขณะที่อิหร่านเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมพิเศษในเดือนส.ค.หรือก.ย. แต่ประเทศในอ่าวอาหรับปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว

ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.756 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 0.4% สู่ระดับ 2.192 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้ยอดขาดดุลการค้าเดือนเม.ย.ของสหรัฐร่วงลง 6.7% สู่ระดับ 4.37 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2553

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงเยเมนและซีเรีย โดยนายอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ประธานาธิบดีเยเมนซึ่งถูกประชาชนลุกฮือขึ้นมาขับไล่หลังปกครองประเทศมานานเกือบ 33 ปีนั้น ได้หลบหนีไปรักษาตัวที่ซาอุดีอาระเบียเพราะได้รับบาดเจ็บจากการถูกกลุ่มต่อต้านยิงโจมตี ขณะที่รัฐบาลของนายซาเลห์ระบุว่า ชี้ค ซาดิค อัล-อาห์มาร์ ผู้นำชนเผ่าที่ต่อต้านรัฐบาลเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ