หนังสือพิมพ์อัล-ฮายัตของซาอุดิอาระเบียรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก จะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน 13% เป็น 10 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับปัจจุบันที่ 8.8 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งล่าสุด
ข่าวการเพิ่มปริมาณการผลิตของซาอุดิอาระเบียส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์ในตลาดมองว่า ซาอุดิอาระเบียต้องการแสดงให้กลุ่มโอเปคเห็นว่า ซาอุดิอาระเบียมีจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วยการเพิ่มอุปทานพลังงาน เพื่อให้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยซาอุดิอาระเบียมองว่า ราคาน้ำมันที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือเป็นระดับที่เหมาะสม
ส่วนในการประชุมโอเปคที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น บรรยากาศการประชุมเต็มไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากที่ประชุมมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องโควต้าการผลิต โดย 4 ชาติสมาชิกโอเปค คือซาอุดิอาระเบีย คูเวต กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เสนอให้โอเปคปรับเพิ่มปริมาณการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เป็น 30.3 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ 7 ชาติสมาชิกโอเปค ซึ่งได้แก่อิหร่าน ลิเบีย แอลจีเรีย แองโกลา เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา และอิรัก ต้องการให้โอเปคตรึงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม ขณะที่ไนจีเรียวางตัวเป็นกลาง
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วซาอุดิอาระเบียจะสามารถโน้มน้าวสมาชิกโอเปคให้คล้อยตามข้อเสนอของตนเองได้ แต่ในการประชุมครั้งนี้อิหร่าน เวเนซุเอลา และประเทศสมาชิกโอเปคที่มีจุดยืนต่อต้านสหรัฐ ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอที่จะคัดค้านข้อเสนอของซาอุดิอาระเบีย โดยอิหร่านอ้างว่า สมาชิกหลายประเทศของโอเปคมองว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในระดับที่เพียงพอในขณะนี้