บรรดาผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในญี่ปุ่นกำลังเจรจาขั้นสุดท้ายกับบรรดาบริษัทรถยนต์ เพื่อขอขึ้นราคาเหล็กช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2554 (เดือนเมษายน-กันยายน) ราว 10,000 เยน/ตัน จากราคาของเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น
แหล่งข่าวเผยว่า ราคาเหล็กที่สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 เยน/คัน และส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งกำลังพยายามพลิกฟื้นยอดผลิตที่ร่วงหนักอันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ขณะเดียวกันคงเป็นเรื่องยากที่ผู้ผลิตรถยนต์จะขึ้นราคารถตามราคาเหล็กที่สูงขึ้น
แรกเริ่มเดิมทีบริษัท นิปปอน สตีล คอร์ป ขอขึ้นราคาเหล็กราว 15,000 เยน/ตัน ในการเจรจากับ โตโยต้า มอเตอร์ แต่ตอนนี้คาดว่าน่าจะตกลงกันได้ที่ 10,000 กว่าเยน แต่ก็ยังถือเป็นการขึ้นราคามากที่สุดนับตั้งแต่ที่ขึ้นราคาไป 20,000 เยนในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2553
ด้านบริษัท เจเอฟอี สตีล คอร์ป ก็กำลังเจรจากับบริษัท นิสสัน มอเตอร์ เพื่อขอขึ้นราคาเหล็กเท่าๆกัน
ทั้งนี้ ราคาวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยราคาแร่เหล็กอยู่ที่ 170 ดอลลาร์/ตัน และราคาถ่านโค้กอยู่ที่ 330 ดอลลาร์/ตัน เนื่องจากอุปสงค์จากจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บรรดาผู้ผลิตเหล็กจึงมีแผนขึ้นราคาผลิตภัณฑ์เหล็กราว 20,000 เยน/ตันก่อนเกิดภัยพิบัติเมื่อเดือนมีนาคม อย่างไรก็ดี เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้นบริษัทผลิตรถยนต์ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผู้ผลิตเหล็กจึงเจรจากับผู้ผลิตรถยนต์ว่าจะขอขึ้นราคาน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน