ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวลดลง หลังจากสภาพอากาศทั่วโลกสดใสขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลผลิตธัญพืชเพิ่มขึ้นด้วย โดยราคาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะที่ราคาข้าวสาลีกลับมาปรับตัวลดลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 4.5 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 7.825 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 16.25 เซนต์ หรือ 2.14% ปิดที่ 7.43 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 4.5 เซนต์ หรือ 0.32% มาปิดที่ 13.8275 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า การพยากรณ์สภาพอากาศบ่งชี้ว่า สภาพอากาศทั่วโลกจะเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกธัญพืชอย่างน้อยก็ในระยะสั้น ซึ่งอาจช่วยให้ตลาดผ่อนคลายจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนอุปทาน
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าสภาพอากาศที่ดีขึ้นในระยะสั้นในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐจะส่งผลดีต่อภาวะการเจริญเติบโตของธัญพืช เนื่องจากการพยากรณ์อากาศคาดว่าจะมีฝนตกมากขึ้นในสัปดาห์นี้และมีสภาพอากาศที่เย็นขึ้นแต่เป็นอุณหภูมิที่ปกติ นอกจากนี้ เทรดเดอร์คาดว่าการรายงานภาวะธัญพืชประจำสัปดาห์บ่งชี้ถึงสภาวะที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์ถึงภาวะอุปทานที่ตึงตัวและเทรดเดอร์ยังจับตาดูความคืบหน้าในการเพาะปลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่ามีการเพาะปลูกไปแล้วกี่เอเคอร์ในปีนี้
ในขณะเดียวกัน สภาพอากาศที่ดีขึ้นในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตแบล็คซี จะช่วยให้ภาวะการเจิรญเติบโตของของข้าวสาลีดีขึ้นและความต้องการส่งออกที่ชะลอลงยังช่วยเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดมากขึ้น
ส่วนในตลาดถั่วเหลือง นักวิเคราะห์กล่าวว่า แรงกดดันต่อการเทขายมาจากการคาดการณ์ที่ว่าสภาพอากาศในระยะสั้นมีความเหมาะสมอย่างยิ่งต่อพืชที่พึ่งเพาะปลูกในเขตมิดเวสต์ โดยแหล่งเพาะปลูกถั่วเหลืองในรัฐไอโอวา อิลลินอย อินเดียนา และ โอไฮโอ มีพื้นที่รวมกันกว่า 15 ล้านเอเคอร์ (6,070,200 เฮคตาร์) หรือ 19.5% ของพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองทั้งหมดในสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน