สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 99 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐและจีน รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่ปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ขยายตัวมากเกินคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ โดยมีการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 99.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 119.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาดของจีนและสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ลดลง 0.2% แต่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 0.4%
รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 11 เดือนเนื่องจากยอดขายรถยนต์อ่อนแอลง หลังจากห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมยอดขายรถยนต์แล้ว ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ขยายตัวขึ้น 0.3%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ที่ระบุว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ขยายตัวขึ้น 13.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยายตัวได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่าจะขยายตัวเพียง 13.2%
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อนักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ซาอุดิอาระเบียอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะประกาศให้มาตรการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันมีผลบังคับใช้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะยังไม่สูงขึ้น และจะช่วยหนุนราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอีก
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์อัล-ฮายัตของซาอุดิอาระเบียรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก จะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน 13% เป็น 10 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับปัจจุบันที่ 8.8 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งล่าสุด
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%