ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) ราคาสัญญาธัญพืชยังคงร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายอย่างหนัก โดยสภาพอากาศที่ดีขึ้น, นโยบายคุมเข้มทางการเงินของจีน และ การเพาะปลูกที่คืบหน้ามากกว่าคาดการณ์ ต่างก็เป็นปัจจัยที่ลบต่อตลาด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 27 เซนต์ หรือ 3.45% ปิดที่ 7.555 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 11.75 เซนต์ หรือ 1.58% ปิดที่ 7.3125 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 14.75 เซนต์ หรือ 1.1% มาปิดที่ 13.68 ดอลลาร์/บุชเชล
สำหรับตลาดข้าวโพด นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า กระแสข่าวลือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเพาะปลูกที่เร็วเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับภาวะการเพาะปลูกที่ดีเกินคาดการณ์ในปัจจุบัน และการพยากรณ์ที่คาดว่าสภาพอากาศจะเอื้ออำนวยในอีก 10 วันข้างหน้าในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายจำนวนมาก
เทรดเดอร์คาดว่า การเพาะปลูกข้าวโพดอาจมีความคืบหน้า 96-97% แต่การรายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่ามีความคืบหน้าไปแล้วถึง 99% นอกจากนี้ 69% ของข้าวโพดยังได้รับการคัดเกรดว่าดีจนถึงดีมาก
นอกจากนี้ แผนการออกกฎหมายเพื่อยกเลิกภาษีแรงจูงใจสำหรับการผลิตเอทธานอล ซึ่งมีมูลค่าถึง 5.4 พันล้านดอลลาร์ ยังถูกมองว่าเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการเทขาย โดยประมาณ 1 ใน 3 ของ ข้าวโพดของสหรัฐถูกนำไปใช้ในการผลิตเอทธานอล
ในขณะเดียวกัน การที่จีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคข้าวโพดรายใหญ่ ตัดสินใจใช้นโยบายควบคุมเงินเฟ้อด้วยการประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 0.50% นั้น ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวและทำให้อุปสงค์ลดลงด้วย
เทรดเดอร์มองว่าสภาพอากาศที่ดีขึ้นในยุโรปและเขตแบล็คซี ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นปัจจัยลบต่อข้าวสาลี
ส่วนในตลาดถั่วเหลือง การรายงานการสกัดน้ำมันจากสมาคมโรงกลั่นน้ำมันจากเมล็ดพืชแห่งชาติบ่งชี้ว่า ยอดการสกัดน้ำมันสำหรับเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 120.3 ล้านบุชเชล ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะอยู่ที่ 121.5 ล้านบุชเชล และในเดือนเมษายนที่ 121.3 ล้านบุชเชล ซึ่งต่างก็เพิ่มบรรยากาศที่เป็นลบต่อตลาด สำนักข่าวซินหัวรายงาน