สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลก และหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 94.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้แรงหนุนหลังจาก IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกเป็น 1.3% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน
IEA คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นปีละ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1.3% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการสำหรับปี 2553 - 2558 ที่ IEA ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนธ.ค. อยู่ 700,000 บาร์เรลต่อวัน โดยความต้องการที่สูงขึ้นนี้เป็นผลพวงมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง โดยฉพาะในเอเชีย ตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา
ตลาดยังคงขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 10 มิ.ย.ร่วงลง 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 365.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 มิ.ย. ร่วงลง 16,000 ราย สู่ระดับ 414,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 420,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.5% ต่อปี สู่ระดับ 560,000 ยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 540,000 ยูนิต ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 8.7% ต่อปี สู่ระดับ 612,000 ยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 560,000 ยูนิต