สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับยืนยันว่าจะคงนโยบายการเงินผ่อนปรนต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 95.41 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 93.24-95.70 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 3.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 17 มิ.ย. ร่วงลง 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 363.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 500,000 บาร์เรล สู่ระดับ 214.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 142.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 3.1% สู่ระดับ 89.2% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.6%
รายงานสต็อกน้ำมันของ EIA ออกมาค่อนข้างสอดคล้องกับรายงานของการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 81,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 541,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 86.5%
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้แรงหนุนหลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) เฟดจะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ