กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงจะระบายน้ำมัน 30 ล้านบาร์เรลออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve -SPR) ภายในประเทศ เพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลนพลังงานอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเงินในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ โดยเฉพาะลิเบีย
"เราใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อรับมือกับการขาดแคลนน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมันในลิเบียและประเทศอื่นๆ และเพื่อรับมือกับผลกระทบที่จะมีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก" นายสตีเฟน ชู รมว.พลังงานสหรัฐกล่าว
การระบายน้ำมันของจากคลัง SPR ของสหรัฐนั้น คิดเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำมันดิบ 60 ล้านบาร์เรลที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะระบายออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองเพื่อบรรเทาภาวะอุปทานตึงตัวในตลาดโลก
กระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ปัจจุบันสหรัฐมีน้ำมันดิบในคลัง SPR อยู่ 727 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยที่ผ่านมานั้น สหรัฐได้ติดต่อสื่อสารกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันและผู้ใช้น้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อหารือกันเกี่ยวกับภาวะติดขัดด้านอุปทานในตลาดน้ำมันโลกที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
"สถานการณ์ในลิเบียส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกหดตัวลงถึง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน" กระทรวงพลังงานสหรัฐกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน