สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีวิตกกังวลก่อนที่จะทราบผลการอภิปรายร่างมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐสภากรีซ โดยนักลงทุนวิตกว่ากรีซอาจจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) หากรัฐสภากรีซไม่ผ่านร่างมาตรการดังกล่าวในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดลบ 55 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 90.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 89.61-91.30 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ดีดตัวขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 105.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 102.28-106.40 ดอลลาร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหนี้กรีซ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูผลการอภิปรายร่างมาตรการรัดเข็ดขัดของสมาชิกสภานิติบัญญัติกรีซซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ รัฐสภาจะต้องผ่านร่างมาตรการดังกล่าวในสัปดาห์นี้ เพื่อที่กรีซจะได้รับเงินกู้เบิกจ่ายงวดใหม่มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโรจากไอเอ็มเอฟและอียู และเพื่อให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย โดยเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมภายในประเทศ ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับการระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองของประเทศสมาชิก โดยระบุว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังในปริมาณ 30 ล้านบาร์เรล, ญี่ปุ่น 7.4 ล้านบาร์เรล, เกาหลีใต้ 3.96 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกในยุโรปจะระบายน้ำมันดิบออกจากคลัง 4.2 ล้านบาร์เรล และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 15 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 มิ.ย.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.1%