นายฟรองซัว บลองช์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ กล่าวแสดงความเห็นว่า น้ำมันที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบายออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองครั้งล่าสุดนั้น มีปริมาณที่น้อยเกินไป และระบายออกมาในช่วงเวลาที่ช้าจนเกินไป
นายบลองช์กล่าวในที่ประชุม "Mid-Year Review & Outlook Press Conference" ของธนาคารว่า IEA ควรระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันดิบยังไม่เริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้น นอกจากนี้ นายบลองช์เกรงว่า น้ำมันดิบ 60 ล้านบาร์เรลที่ IEA ระบายออกมานั้น อาจไม่เพียงพอที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในระยะกลางและระยะยาว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา IEA ประกาศว่า จะระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์ในปริมาณ 60 ล้านบาร์เรล หรือ 2 ล้านบาร์เรล/วันภายในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งการระบายน้ำมันออกจากคลังเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์การก่อตั้ง IEA นั้น มีเป้าหมายที่จะบรรเทาภาวะอุปทานพลังงานตึงตัว อันเป็นผลมาจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายบลองช์กล่าวว่า ในระยะกลาง น้ำมันดิบ 60 ล้านบาร์เรลที่ระบายออกมานั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันได้ โดยนายบลองช์ชี้ว่า การที่ลิเบียไม่สามารถผลิตน้ำมันได้อันเนื่องมาจากสงครามกลางเมืองนั้น ส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกสูญเสียอุปทานไปถึง 132 ล้านบาร์เรลจนถึงเดือนพ.ค. และถ้าลิเบียยังไม่สามารถกลับมาผลิตน้ำมันได้ในเร็วๆนี้ ตลาดน้ำมันโลกก็จะตกอยู่ในภาวะอุปทานตึงตัวไปจนถึงปี 2555