สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และข่าวรัฐสภากรีซมีมติผ่านร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับที่ 2 นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจในเขตมิดเวสต์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนมิ.ย.
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดบวก 65 เซนต์ หรือ 0.7% แตะที่ 95.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 112.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงซื้อส่งเข้าหนุนหลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และจากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่ากรีซจะสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากรัฐสภากรีซมีมติรับรองร่างกฎหมายรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีฉบับที่ 2 ซึ่งเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการทางการคลัง รวมถึงการจัดตั้งองค์กรแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และการบังคับใช้กฎหมายด้านภาษี ซึ่งเป็นข้อกำหนดในการรับเงินกู้งวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโรจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เขตชิคาโกที่ระบุว่า ดัชนีกิจกรรมภาคธุรกิจในเขตมิดเวสต์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 61.1 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ดีกว่าในเดือนพ.ค.ที่ดัชนีหดตัวลงสู่ระดับ 56.6 จุด และยังสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 54 จุด
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มิ.ย.ปรับตัวลง 1,000 ราย สู่ระดับ 428,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 420,000 ราย และนับเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกันที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการยังเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 400,000 ราย ซึ่งเป็นระดับที่สะท้อนถึงภาวะมีเสถียรภาพของตลาดแรงงาน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกเหนือจากภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวในตลาดน้ำมันดิบ หลังจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หมดอายุลงในวันพฤหัสบดีที่ 30 มิ.ย. และเฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 จนถึงขณะนี้