สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) หลังจากที่ดัชนีภาคการผลิตของจีนปรับตัวลดลง ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐก็ร่วงลง ซึ่งทั้งสองปัจจัยมีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันเหนือกว่าข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัว
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดลบ 48 เซนต์ หรือ 0.5% แตะที่ 94.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 71 เซนต์ ปิดที่ 111.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สหพันธุ์ลอจิสติคส์และการซื้อของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนมิถุนายน โดยดัชนี PMI ร่วงลงแตะ 50.9 จุด จากระดับ 52 จุดในเดือนพฤษภาคม นับเป็นการลดลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน อันเป็นผลมาจากการคุมเข้มนโยบายการเงินเป็นสำคัญ
นอกจากนั้นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐก็ร่วงลงในเดือนมิถุนายน โดยดัชนีของธอมสัน รอยเตอร์ส/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงแตะ 71.5 จุด จากระดับ 74.3 จุดในเดือนพฤษภาคม ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 72 จุด แสดงให้เห็นว่าอัตราว่างงานและราคาอาหารที่พุ่งสูงยังคงทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในที่สุด
ขณะเดียวกันสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ขยายตัวแตะ 55.3 จุดในเดือนมิถุนายน จากระดับ 53.5 จุดในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี ปัจจัยดังกล่าวยังไม่มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้ตลาดน้ำมันปิดบวกได้