สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ส แคปิตอล ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐและน้ำมันดิบเบรนท์ แม้หลายประเทศ รวมถึงสหรัฐ ได้ระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองเพื่อลดปัญหาอุปทานตึงตัวก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดบวก 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 96.89 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 94.34-97.48 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์ หรือ 1.99% ปิดที่ 113.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.45-114.44 ดอลลาร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นเกินคาด 0.8% สู่ระดับ 4.453 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัวของสหรัฐนั้น จะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้สูงขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ส แคปิตัล ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐและน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2555 แม้ประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) รวมถึงสหรัฐ ได้ระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองเพื่อลดปัญหาอุปทานตึงตัวก็ตาม
ทั้งนี้ บาร์เคลย์สได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐในปี 2555 ขึ้น 4 ดอลลาร์ สู่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล และได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปี 2554 10 ดอลลาร์ สู่ระดับ 115 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยบาร์เคลย์สมองว่า ภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของซาอุดิอาระเบีย จีน อินเดีย และบราซิล ยังคงเป็นแรงกระตุ้นอุปสงค์ด้านพลังงาน
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า แม้ IEA ระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรองในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้มากเท่าที่มีการประเมินเอาไว้ในช่วงแรก ในทางตรงกันข้าม ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจมากกว่าปัจจัยที่มาจากภาวะอุปทานตึงตัว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะทรงตัวที่ระดับเดียวกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.1%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้น 90,000 ราย และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะลดลงสู่ระดับ 9%