ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.ค.) ราคาสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองพุ่งขึ้น เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐในช่วงอีก 10 วันข้างหน้าอาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิตธัญพืช ในขณะที่ข้าวสาลีก็พุ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ทะยาน 21.5 เซนต์ หรือ 3.5% ปิดที่ 6.37 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.พุ่ง 16.75 เซนต์ หรือ 2.6% ปิดที่ 6.5125 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 8.75 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 13.465 ดอลลาร์/บุชเชล
ทิม แฮนนาแกน นักวิเคราะห์ธัญพืชจาก PFGbest ในชิคาโก้ เปิดเผยว่า WXRISK.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับการพยากรณ์สภาพอากาศ ได้รายงานว่า คลื่นความร้อนจากภาคเหนือของรัฐแคนซัส เซาธ์ดาโกต้า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมเขตมิดเวสต์ทั้งเขตในสัปดาห์หน้า
"ข้าวโพดส่วนใหญ่กำลังจะเข้าสู่ช่วงการเจริญเติบโต นับตั้งแต่สัปดาห์หน้าไปจนถึงสิ้นเดือน โดยจะออกเมล็ดในระหว่างวันที่ 1-20 สิงหาคม ดังนั้น เมล็ดข้าวโพดจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความร้อนและสภาพอากาศในเดือนหน้า"
เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดธัญพืชได้รับความกดดันจากข้อมูลการจ้างงานที่น่าผิดหวังของสหรัฐ รวมทั้งการร่วงลงของตลาดน้ำมันและตลาดหุ้น และการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ แต่สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในเขตมิดเวสต์ได้กระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลต่อผลผลิตธัญพืชและหนุนให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน