ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) สัญญาธัญพืชพุ่งขึ้นต่อเนื่อง เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์และอุณหภูมิที่สูงขึ้นในเขตพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งคาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตปีถัดไป
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 21.75 เซนต์ หรือ 3.3% ปิดที่ 6.7975 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.ทะยาน 42.5 เซนต์ หรือ 6.3% ปิดที่ 7.145 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่ง 21.5 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 13.7975 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า นอกจากบรรยากาศที่คึกคักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาแล้ว สินค้าเกษตรยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์และการพยากรณ์ถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัด
เมื่อวานนี้ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐออกมาส่งสัญญาณถึงการใช้มาตรการมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติม ซึ่งรวมทั้งโครงการซื้อพันธบัตรในรอบใหม่หากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ซึ่งฉุดให้เงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่าลง
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบค่าเงินสกุลดอลลาร์เทียบค่าเงินสกุลหลัก 6 สกุลในตระกร้าเงิน ร่วงลงมากกว่า 1% เมื่อวานนี้ สู่ระดับ 74.89 จุด ซึ่งโดยปกติการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์จะเป็นปัจจัยหนุนต่อสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร
นอกจากนี้ เทรดเดอร์กล่าวว่า ข้าวโพดและถั่วเหลืองยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ถึงผลผลิตที่ลดลงเนื่องจากการพยากรณ์ถึงสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุณหภูมิที่อยู่สูงในระดับสูงในสัปดาห์ที่จะมาถึง
ทั้งนี้ ตลาดข้าวโพดยังได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากความต้องการเอทธานอลที่แข็งแกร่ง โดยข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่า ยอดการผลิตเอทธานอลประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 8 กรกกฎาคม แตะที่เฉลี่ย 872,000 บาร์เรลต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 6.21% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน