สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขการสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM)
สัญญน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.93-98.65 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเดือนส.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันพุธที่ 20 ก.ค. ส่วนราคาน้ำมันดิบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 97.86 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นเพราะได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 629,000 ยูนิตต่อปี พุ่งขึ้น 14.6% จากเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 624,000 ยูนิตต่อปี เพิ่มขึ้น 6.7% จากเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชน โดย IBM รายงานว่า รายได้สุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่โคคา-โคลา รายงานว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 1.17 ดอลลาร์ต่อหุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นเมื่อผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า IEA ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการระบายน้ำมันรอบที่ 2 ออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรอง หลังจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา IEA ได้ตัดสินใจระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อบรรเทาภาวะอุปทานพลังงานตึงตัว อันเป็นผลมาจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูว่า IEA จะตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างไร เนื่องจาก IEA จะประเมินผลกระทบจากแผนการระบายน้ำมันในเดือนมิ.ย.ภายในเวลา 30 วัน ซึ่งหมายความว่าช่วงเวลาในการประเมินจะสิ้นสุดลงในช่วงสุดสัปดาห์นี้
มาสเตอร์การ์ด สเปนดิงพัลส์รางานว่า ผู้ขับขี่ยานยนต์ในสหรัฐยังคงลดการซื้อน้ำมันเบนซินเป็นเวลา 17 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยผลการสำรวจรายสัปดาห์บ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันซื้อน้ำมันเบนซินน้อยลง 1.1% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานภายในประเทศ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ค.ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (IEA) จะเปิดเผยในคืนวันพุธตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะร่วงลง 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%